การทำงานที่ญี่ปุ่นจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป! ขั้นตอนการเขียนเรซูเม่ การสัมภาษณ์ และมารยาทในที่ทำงาน หางานต่างประเทศ

การทำงานในญี่ปุ่นจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

อาจมีบางคนที่ดูละครญี่ปุ่นหรืออนิเมะแล้วจินตนาการถึงชีวิตการทำงานในญี่ปุ่น หางานต่างประเทศ

โดยทั่วไปถ้าจะทำงานที่ญี่ปุ่นในช่วงวันหยุด คุณต้องมีความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นระดับ N3 ขึ้นไป และหากคุณมีระดับ N2 ขึ้นไป การที่จะเป็นพนักงานประจำในญี่ปุ่นก็ไม่ใช่ความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงอย่างแน่นอน บทความสั้นๆ นี้ขอแนะนำวิธีหางานประจำ การเขียนเรซูเม่ เสื้อผ้าสำหรับไปสัมภาษณ์ และมารยาทพื้นฐานในที่ทำงานของญี่ปุ่น ผู้ที่อยากทำงานในญี่ปุ่นไม่ควรพลาดค่ะ! งานญี่ปุ่น

จะหางานประจำในญี่ปุ่นได้อย่างไร?

สำหรับบางประเทศที่ได้รับสิทธิ์ให้ขอวีซ่าแบบ Working Holiday ได้ก็จะค่อนข้างสบาย เพราะสามารถมาเที่ยวพร้อมทำงานไปด้วยได้ ถ้าบริษัทหรือร้านที่เราไปทำงานเกิดถูกใจอยากให้เราช่วยงานต่อก็มีสิทธิ์ได้เป็นพนักงานประจำขึ้นมาเหมือนกัน หรือระหว่างนั้นก็อาจจะหางานที่อื่นไปในตัว แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวแล้วถือโอกาสหางานสมัครงานไปด้วย เพราะถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของวีซ่าท่องเที่ยว หางานต่างประเทศ งานญี่ปุ่น

ส่วนคนที่มาเรียนภาษา เรียนต่อวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น อย่าเพิ่งชะล่าใจรอให้เรียนจบก่อนแล้วค่อยหานะ เพราะคนญี่ปุ่นจะเริ่มหางานล่วงหน้ากันเป็นปีเลย อย่างนักศึกษามหาวิทยาลัยบางคนก็เริ่มหาตั้งแต่ปลายปี 3 ก็มี โรงเรียนภาษาใหญ่ๆ บางแห่งอาจมีข้อมูลบริษัทที่เปิดรับสมัครงานไว้ให้ เราสามารถไปขอดูข้อมูลแล้วลองสมัครบริษัทที่สนใจได้

วิธีทั่วไปที่จะเข้าทำงานในบริษัทสำหรับคนที่อยู่ญี่ปุ่นแล้วคือไปทำงานพิเศษ (อารุไบโตะ) ในบริษัทที่อยากเข้าทำงานระหว่างที่วีซ่าของเรายังไม่หมดอายุ ถ้ามีผลงานดีเตะตา ทางบริษัทก็อาจช่วยจัดการเรื่องยื่นขอวีซ่าทำงานให้และรับเข้าเป็นพนักงานประจำ

แต่ใช่ว่าคนที่อยู่ต่างประเทศแล้วจะหมดโอกาสหางานจากบริษัทญี่ปุ่น เพราะปัจจุบันก็มีบริษัทญี่ปุ่นไปเปิดสำนักงานหรือตั้งบริษัทในไทยมากมาย เราอาจได้รับโอกาสส่งมาประจำที่ญี่ปุ่นก็ได้ หรือบริษัทบางแห่งที่อยู่ในญี่ปุ่นก็ยินดีที่จะรับสมัครข้ามประเทศเหมือนกันถ้าคุณสมบัติของเราตรงกับความต้องการของบริษัทเค้า

งานส่วนใหญ่จะออกแนวงานที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางหรือความสามารถด้านภาษา เช่น งานโรงแรม บริษัททัวร์ บริษัทค้าขายระหว่างประเทศ งานแปล อสังหสริมทรัพย์ และวงการธุรกิจไอที

เรซูเม่ที่ต้องเขียนด้วยมือ

การสมัครบริษัทในญี่ปุ่นโดยทั่วไปคือการส่งเรซูเม่ (Resume หรือ CV : เอกสารแนะนำตัว) ที่ญี่ปุ่นจะมีแบบฟอร์มสำหรับเขียนเรซูเม่ขายตามร้านเครื่องเขียน ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้าน 100 เยน เวลาเขียนต้องใช้ปากกาลูกลื่นสีดำ ตัวอักษรประณีตไม่เล็กเกินไป และใช้น้ำยาลบคำผิดให้น้อยที่สุด (ไม่ให้ดูสะดุดตา)

สำคัญที่สุดคือเขียนด้วยลายมือตัวเองทั้งหมด ซึ่งตรงนี้เราอาจรู้สึกว่าพิมพ์ออกมาดูสะอาดเรียบร้อยกว่าตั้งเยอะ แต่เหมือนทางบริษัทจะต้องการเห็นความพยายามในการสมัครของเราผ่านใบเรซูเม่นี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมาพยายามเขียนให้สวยๆ กัน

รูปถ่ายติดเรซูเม่สามารถใช้บริการตู้ถ่ายรูปติดบัตรอัตโนมัติตามสถานีรถไฟหรือหน้าซูเปอร์มาร์เก็ต แนะนำให้สวมชุดทางการ เสื้อเชิ้ตสีขาวและเสื้อนอกสีดำ รวบผมแต่งผมให้เรียบร้อย

เสื้อผ้าสำหรับไปสัมภาษณ์

เวลาไปสัมภาษณ์งานทั่วๆ ไป ชุดสูทสีดำเป็นชุดที่เรียบง่ายและดูเหมาะเจาะที่สุด ถ้าไม่มีสีดำก็ควรเป็นสีเข้มที่ดูไม่แฟชั่นหรือลำลองเกินไป

สำหรับการสัมภาษณ์เพื่อสมัครเป็นพนักงานประจำจะค่อนข้างเข้มงวดกว่าปกติ ผู้ชายควรสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ชุดสูทสีดำ เนกไทสีพื้นหรือลายไม่เด่นชัดเกินไป ถุงเท้าสีดำ รองเท้าหนังสีดำ และกระเป๋าเอกสารสีดำ ผู้หญิงควรสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ชุดสูทสีดำ (กางเกงหรือกระโปรง) รองเท้าส้นสูงสีดำ ถุงเท้าสีเนื้อ และกระเป๋าเอกสารที่เน้นสีดำ ไม่มีลวดลายสีสันฉูดฉาด

ไม่แนะนำให้ย้อมผมสีอ่อน จะให้ดีอย่าย้อมผมเลยจะดีกว่า และควรถอดสร้อยคอ ต่างหู เครื่องประดับที่ดูแฟชั่นจ๋า แต่สวมนาฬิกาได้ค่ะ

ผู้ชายไม่ควรมีผมยาวเกินไปและควรโกนหนวดเคราให้สะอาด ผู้หญิงควรมัดผมหางม้า แต่งหน้าบางๆ และสวมถุงน่องที่เข้ากับสีผิว แนะนำให้เลือกรองเท้าส้นเตี้ยสีดำเพราะดูสุภาพ ไม่แฟชั่นเกินไป

มารยาทพื้นฐานในที่ทำงานของญี่ปุ่น

職場禮儀
งานญี่ปุ่น.com

มารยาทพื้นฐานคือการทักทายไม่ว่าในตอนเช้า กลางวัน หรือตอนเลิกงาน ตอนเช้าจะพูดว่า “โอฮาโยโกไซมัส (สวัสดีตอนเช้า)” ระหว่างวันเมื่อพบกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าที่ห้องน้ำ ตามทางเดินของบริษัท หรือตามร้านอาหารหรือร้านค้าข้างนอก จะพูดว่า “โอสึคาเรซามะเดส (ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก)” และตอนกลับบ้านก็จะพูดว่า “โอซาคินิชิสึเรชิมัส (ขอตัวกลับก่อน)” หรือ “โอสึคาเรซามะเดส”

อีก 2 คำที่ใช้บ่อยมากคือ “ซุมิมาเซ็น (ขอโทษ)” และ “อาริกาโตโกไซมัส (ขอบคุณ)”

[ชีวิตในญี่ปุ่น] สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเมื่อมาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น

สวัสดีครับ… วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่า “เมื่อมาทำงานที่ญี่ปุ่น สิ่งที่ต้องเตรียมตัวนั้นมีอะไรบ้าง” แต่ขอบอกก่อนว่า บางเรื่องผมไม่ได้ทำด้วยตัวคนเดียวนะ ผมมี ซากิซัง(HR แม่พระของที่บริษัท) คอยช่วยจัดเตรียมเอกสาร และคอยแนะนำในหลายๆเรื่อง ถ้าไม่ได้ซากิซังมาช่วย ผมคงลำบากกว่านี้แน่นอน

ก่อนจะไปญี่ปุ่น

หลังจากที่เซ็นสัญญากับทางบริษัทเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการขอ Work permit หรือที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่าใบ CoE(Certificate of Eligibility) ซึ่งใบ CoE นั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะเป็นคนออกให้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1– 3 เดือน แล้วแต่ดวง อย่างของผมนี่กว่าจะได้ก็เกือบๆ 3 เดือนแหนะ

หลังจากได้ใบ CoE แล้ว ก็ไปทำ VISA ต่อ(รายละเอียด) ซึ่งระยะเวลาของ VISA ว่าเราจะได้กี่ปีนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับใน CoE เขียนไว้ว่าเราสามารถอยู่ได้กี่ปี บางคน 1 ปี 3 ปี 5 ปี แล้วแต่กรณี ผมได้ยินมาว่าถ้ามี skills ตรงตามที่ญี่ปุ่นต้องการ ก็จะได้หลายปีมากกว่า เช่น
1. ลักษณะงานที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูง เช่น Engineer, doctors เป็นต้น
2. จบ Master degree จากต่างประเทศ
3. JLPT อย่างน้อย N2
4. บริษัทที่จะมาทำงานอยู่ในตลาดหุ้น

เป็นต้น

นอกจากเรื่อง CoE กับ Visa แล้ว เรื่องที่ต้องไปจัดการคือ

  • เงินที่จะเตรียมไป ตอนนี้มีบัตรเดบิตหลายๆแบบ ที่เราสามารถนำไปกดเงินต่างประเทศได้ ลองไปศึกษาดูนะครับ (SCB planet, KTB travel card, …)
  • ประกันสังคม บางคนอาจจะส่งประกันสังคม(มาตรา 39) ต่อ แต่ของผมเลือกที่จะไม่ส่งต่อแล้วยื่นเป็น “ว่างงาน” พอกลับไทยค่อยไปส่งต่อเหมือนเดิม โดยจำนวนเงินที่เราส่งไปจะยังคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งสมมติว่าเรากลับไปส่งต่อประกันสังคมต่อ เงินที่ส่งไปก็จะไปสมทบกับยอดเดิม
  • ฉีดยากันโรคทั้งหลาย ไข้หวัดใหญ่ หัดเยอรมัน บลาๆ ลองไปปรึกษาที่ คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง ได้ครับ
  • ใบขับขี่สากล ผมแนะนำให้ทำมานะ เผื่อไว้ว่าเราอยากจะไปเที่ยวในที่ที่ต้องขับรถไป ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมาก เตรียมพาสปอร์ต รูปถ่าย 2 นิ้ว ใบขับขี่(ชนิด 5 ปี หรือตลอดชีพ) และเงิน 505 บาท ไปที่กรมขนส่งทางบก (ดูเพิ่มเติม)
  • จองตั๋วเครื่องบิน แนะนำว่าเลือกสายการบินที่ให้เราโหลดกระเป๋าได้น้ำหนักเยอะหน่อย

มาถึงญี่ปุ่นแล้ว ก่อนจะเริ่มใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวต้องทำอะไรบ้าง

Resident card(Zairyu หรือ ไซริว)

อันนี้ไม่มีอะไรมากครับ พอเราไปถึง ตม เค้าก็จะเอา Passport พร้อมใบ CoE ไป แล้วก็จะให้ Resident card เรากลับมา

เบอร์โทรศัพท์

อันนี้น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมี เพราะว่าต้องใช้ในการเช่าบ้าน เปิดบัญชีธนาคาร ตรงนี่อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดว่าต้องซื้ออะไรยังไง เพราะบริษัทมีให้

แต่ถ้าต้องทำเองผมแนะนำว่า เราควรมีบัตรเครดิตมาจากที่ไทยเพื่อเอาไว้ใช้ในการสมัครเบอร์โทรศัพท์ เพราะว่าเค้าจะตัดเงินค่าบริการเราเป็นรายเดือนจากบัตรโดยตรง ถ้าเราไม่มีก็จะสมัครไม่ได้

หาบ้าน (โตเกียว)

เรื่องบ้านน่าจะเป็นเรื่องที่วุ่นวายที่สุด เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ มาลองดูกันว่ามันยุ่งยากวุ่นวายยังไง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น