วีซ่าทักษะเฉพาะทาง คือ วีซ่าที่ได้ถูกออกแบบและถูกเพิ่มขึ้นในกฎหมายแรงงานสำหรับกรมตรวจคนเข้าเมืองในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายน ปี 2019 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะการขาดแคลนแรงงานในประเทศญี่ปุ่น จัดหางานญี่ปุ่น

สำหรับแรงงานหรือลูกจ้างต่างชาติที่ถือวีซ่าประเภทนี้ จะมี “สิทธิ์เท่าเทียม” หรือ “มากกว่า” ผู้ที่ถือสัญชาติญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ เงินเดือน หรือสวัสดิการ และอื่นๆอีกมากมาย

งานญี่ปุ่น.com

วีซ่าทักษะเฉพาะทางถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 

วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1

วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 2

โดย วีซ่าทักษะเฉพาะทาง แต่ละประเภท ค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดน่าสนใจที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้

1.วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1

วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 กำหนดให้ผู้ถือวีซ่าจะต้องมีคุณสมบัติ ประสบการณ์ ทักษะและความรู้ความสามารถที่ตรงกับความต้องการสำหรับการทำงานในอุตสาหกรรมนั้นๆ

นอกจากนี้ผู้ที่ถือวีซ่าทักษะเฉพาะทางหมายเลข 1 ได้ ยังได้รับสิทธิ์ในการอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลารวมแล้วไม่เกิน 5 ปี อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถือวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 จะต้องทำการรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ดูแลวีซ่าทุกเดือนเมษายนและ มิถุนายนของทุกปี และสมาชิกครอบครัวเดียวกันของผู้ถือวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 จะไม่สามารถจะไม่สามารถย้ายตามเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นได้

ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงสถานะวีซ่า ผู้ถือวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 จะไม่สามารถเปลี่ยนสถานะวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 ให้กลายเป็นวีซ่าพำนักถาวรได้

2.วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 2

ผู้ที่สามารถขอถือวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 2 จะต้องมีคุณสมบัติทักษะเฉพาะทางที่เหมาะกับงานในแต่ละประเภทของอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างครบถ้วน

ชาวต่างชาติที่มีสิทธิ์ได้รับวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 2 ต้องเป็นผู้ที่เคยได้วีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทางหมายเลข 1 และอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี

ในขณะที่วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 ได้มีการกำหนดให้ผู้ถือวีซ่าสามารถพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ไม่เกินระยะเวลา 5 ปี  ตราบใดที่วีซ่า ทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 2  สามารถทำเรื่องขอต่อวีซ่าได้อย่างต่อเนื่องตราบเท่าที่ทักษะของผู้ถือวีซ่าตรงกับคุณสมบัติของงานประเภทที่ยื่นขอ

นอกจากนี้ การยื่นเรื่องรายงานตัวเพื่อต่อวีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 2 นั้นไม่จำเป็นต้องทำทุกปีเหมือนกับ วีซ่าทักษะเฉพาะทาง ประเภทที่ 1 อีกด้วย และยังสามารถรายงานตัวยื่นเรื่องต่อวีซ่าได้ทุก 6 เดือน 1 ปี และ 3 ปี

อีกทั้ง ถ้าหากใครที่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้ตามเกณฑ์ปีที่กำหนดก็สามารถขอยื่นเรื่องเพื่อเปลี่ยนสถานะของวีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทาง ประเภทที่ 2 ให้กลายเป็น”วีซ่าประเภทพำนักถาวร” ได้อีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือ วีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทาง ประเภทที่ 2 ยังมอบสิทธิ์ให้กับผู้ถือครองสามารถพาครอบครัวที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาอาศัยร่วมกันอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้ โดยจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณีตามความเหมาะสม

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถือวีซ่าทักษะเฉพาะทาง

การมาทำงานในประเทศญี่ปุ่น วีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทางเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อให้การขอวีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทางเป็นไปอย่างราบรื่น จึงอยากขออธิบายถึงสิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับการขอวีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทาง ดังต่อไปนี้

ผลการสอบวัดระดับความรู้ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น

สิ่งแรกที่ผู้ต้องการยื่นวีซ่าประเภทนี้จะต้องมีผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT ในระดับ N4 หรือ JFT ระดับ A2 ขึ้นไป

การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT คือการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่

ผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT ที่ได้มากกว่า N4 ขึ้นไปจะถือว่าเป็นผู้ที่สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการ พูด อ่าน เขียนภาษาญี่ปุ่น ในระดับการใช้ชีวิตประจำวันได้

ส่วนการสอบวัดระดับทักษะทางภาษาญี่ปุ่น JFT คือการทดสอบภาษาญี่ปุ่นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งจำเป็นสำหรับชาวต่างชาติที่จะพำนักเพื่อทำงานในประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นการมุ่งประเมินทักษะทางภาษาญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่มิได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ ว่า “สามารถสนทนาในชีวิตประจำวันได้ในระดับหนึ่ง และดำเนินชีวิตประจำวันได้โดยไร้ปัญหา”

สำหรับรายละเอียดการสอบวัดระดับทักษะภาษาญี่ปุ่น JLPT รูปแบบภาษาอังกฤษได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้!

-สอบภาษาญี่ปุ่น JLPT(eng)

อ่านรายละเอียดการสอบวัดระดับทักษะภาษาญี่ปุ่น JFT ภาษาอังกฤษและภาษาไทย ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้!

สอบภาษาญี่ปุ่น JFT(eng)

สอบภาษาญี่ปุ่น JFT(thai)

คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการสมัครวีซ่าทักษะเฉพาะทาง(แยกประเภทอุตสาหกรรม)

สิ่งสำคัญอย่างที่สอง ที่ผู้ต้องการถือวีซ่าทักษะเฉพาะทางจะต้องมีคือ “คุณสมบัติของทักษะเฉพาะทาง” การยื่นวีซ่าทักษะพิเศษเฉพาะทาง ผู้ขอจะต้องผ่านการฝึกงานด้านเทคนิคเฉพาะทางมาแล้วตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงมีผลประเมินผ่านการทดสอบด้านทักษะเฉพาะทางด้วย

การทดสอบเพื่อประเมินทักษะเฉพาะทาง จะถูกทดสอบขึ้นเพื่อวัดระดับความสามารถในการทำงานด้านการใช้เทคนิคเฉพาะทาง ตามแต่ละอาชีพหรือแรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่นด้วย

สำหรับความยากง่ายของการทดสอบเพื่อประเมินทักษะเฉพาะทางนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทของแรงงานอุตสาหกรรม โดยเชื่อว่าอุตสาหกรรมแรงงานประเภท “ทำความสะอาดอาคาร” และ “ธุรกิจร้านอาหาร” มีการประเมินที่ค่อนข้างง่าย

คุณสมบัติของวีซ่าแรงงานทักษะเฉพาะทาง จัดหางานญี่ปุ่น
ในการที่จะทำงานในฐานะแรงงานทักษะเฉพาะทาง, คุณจะต้องมีทักษะตามระดับที่กำหนด มี 2 วิธีด้วยกันอย่างแรกคุณจะต้องสำเร็จการฝึกงานด้านเทคนิค 2 และจะต้องผ่านการสอบการวัดระดับทักษะเฉพาะทางในสายงานที่คุณต้องการทำงาน

งานญี่ปุ่น.com

  • สำเร็จการฝึกงานด้านเทคนิค 2 (TITP2)
    <เงื่อนไขที่กำหนด>
    (1)จะต้องสำเร็จการฝึกงานด้านเทคนิค 2 (TITP2) และต้องผ่านการสอบวัดระดับทักษะเฉพาะทางระดับ 3 (随時技能検定3級)
    (2)ถ้าหากคุณสอบไม่ผ่าน คุณจะต้องได้รับจดหมายรับรองจากบริษัทที่คุณได้รับการฝึก
  • <ชนิดของงานที่คุณสามารถทำได้ >
    ผู้ดูแล, ทำความสะอาดอาคาร, การจัดการ, ชิ้นส่วนเครื่องจักรและเครื่องมืออุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมเครื่องจักร, ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์และอุตสาหกรรมข่าวสารข้อมูล, อุตสาหกรรมการก่อสร้าง, อุตสาหกรรมการต่อเรือและอุตสาหรรมเครื่องจักรกลเรือ, การซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์, อุตสาหกรรมการบิน, อุตสาหกรรมโรงแรม, การเกษตร, การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ, การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมอาหาร

    <ระเบียบข้อบังคับ >
    สำหรับใครที่สำเร็จการฝึกงานด้านเทคนิค 2 จะสามารถทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่ฝึกมาได้เท่านั้น

    <ข้อดีของคุณ>
    คุณอยู่ที่ญี่ปุ่นมาแล้วเกือบจะ 3ปีและได้ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น อีกทั้งคุ้นเคยกับวัฒนธรรมและการใช้ชีวิต สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันได้ ถ้าหากคุณยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณที่จะสามารถเข้ารับการสัมภาษณ์งานกับบริษัทญี่ปุ่นได้ เราแนะนำว่าให้คุณหาบริษัทใหม่ให้ได้ภายใน3เดือนก่อนที่คุณจะสำเร็จการฝึกงานด้านเทคนิค2

  • ผ่านการสอบวัดระดับ
    <เงื่อนไขที่กำหนด>
    จะต้องผ่านการสอบวัดระดับทักษะและการสอบวัดระดับทักษะภาษาญี่ปุ่นที่ได้จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นหรือในต่างประเทศ
  • <ชนิดของงานที่คุณสามารถทำได้ >
    ผู้ดูแล, ทำความสะอาดอาคาร, การจัดการ, ชิ้นส่วนเครื่องจักรและเครื่องมืออุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมเครื่องจักร, ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์และอุตสาหกรรมข่าวสารข้อมูล, อุตสาหกรรมการก่อสร้าง, อุตสาหกรรมการต่อเรือและอุตสาหรรมเครื่องจักรกลเรือ, การซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์, อุตสาหกรรมการบิน, อุตสาหกรรมโรงแรม, การเกษตร, การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ, การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมอาหาร

    <ระเบียบข้อบังคับ >
    สำหรับใครที่สอบผ่านการสอบวัดระดับทักษะและการสอบวัดระดับทักษะภาษาญี่ปุ่น จะสามารถทำงานในสายงานที่เกี่ยวกับข้องกับที่สอบได้เท่านั้น

    <ข้อเสียของคุณ>
    ถ้าหากเป็นผู้ที่ไม่เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาก่อนอาจจะทำให้รู้สึกสับสนหรือมึนงงกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นได้ แค่ผ่านการสอบไม่สามารถการันตีได้ว่าคุณจะสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ ดังนั้นจึงเป็นภาระใหญ่สำหรับบริษัทที่จะต้องเดินทางไปสัมภาษณ์ที่ประเทศของคุณ แต่ถ้าหากคุณเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน คุณจะไม่มีข้อเสียเหล่านี้ คุณสามารถหาบริษัทดีๆในญี่ปุ่นได้