รายละเอียดงานบริบาล Work japan

คุณสมบัติ Work japan

-สัญชาติไทย

-เพศหญิงหรือชาย

-อายุไม่เกิน 45 ปี

-วุฒิการศึกษา ม. 6 ขึ้นไป

-มีผลสอบวัดระดับ ทางภาษาญี่ปุ่น

-ต้องมีสอบ Promeptic

-มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว

-เคยมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วย

-มีความอดทน ไม่ใจร้อน และรักงานบริการ

สวัสดิการที่ได้

-เงินเดือนประมาณ 55,000

-ประกันสังคม ตามกฎหมายญี่ปุ่น

-เงินอุดหนุนที่พัก ไม่เกิน 2,000

-วีซ่าการทำงาน 3-5 ปี

งานญี่ปุ่น.com

ทำความรู้จัก บริบาล

อาชีพบริบาล (NA)Nurse Aide หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า KAIGO(介護)อ่านว่าไคโหงะ ที่แปลตรงๆ ว่า การดูแลผู้สูงอายุ

หน้าที่ของKAIGO介護 บริบาลฯ Work japan ในประเทศญี่ปุ่น
การดูแลช่วยเหลือด้านการรักษาความสะอาด เช่น การเปลี่ยนเสื้อผ้า / การดูแลสุขภาพในช่องปาก / การอาบน้ำ / การแช่น้ำร้อน / การเปลี่ยนผ้าอ้อมและการทำความสะอาดหลังการขับถ่าย เป็นต้นฯ
การดูแลช่วยเหลือด้านโภชนาการ เช่น การป้อนอาหาร / การจัดอุปกรณ์ก่อนรับประทานให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละคน / การป้องการกันสำลักและการจัดอาหารเครื่องดื่มให้แต่ละคนที่มีสภาวะร่างกายแตกต่างกัน
การดูแลช่วยเหลือในการเคลื่อนไหว เช่น การพาเดินและเคลื่อนไหวโดยใช้อุปกรณ์ต่างๆอย่างถูกต้องและเหมาะสม
การดูแลสภาพจิตใจ เช่น การชวนพูดคุย การรับฟัง และการหากิจกรรมให้ทำเพื่อความเพลิดเพลินและไม่ปล่อยให้เครียด
การดูแลโดยรับคำสั่งจากพยาบาลฯในด้านต่างๆ เช่น การทำความสะอาดบาดแผล หรือแผลกดทับ เป็นต้นฯ
การเขียนรายงานสภาวะร่างกายของผู้สูงอายุแต่ละท่านในแต่ละวันให้แก่พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้รับทราบ และการอ่านรายงานจากผู้ที่เข้าเวรก่อนหน้านั้น รวมถึงการเขียนรายงานด้านการรับประทาน ปริมาณเครื่องดื่ม การสำลัก และข้อควรระวังในแต่ละคนให้ทราบโดยทั่วถึงกัน

งานบริบาล หรือ งานดูแลผู้สูงอายุคืออะไรนะ

คำว่า “บริบาล” หมายถึง ดูแลหรือดูแลรักษา เพราะฉะนั้น “งานบริบาล” จึงหมายถึงอาชีพที่ดูแลผู้อื่น โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกอาชีพนี้ว่า KAIGO(介護) ที่แปลตรงๆ ได้ว่า การดูแลผู้สูงอายุนั่นเองค่ะ

ญี่ปุ่นนั้นกำลังเกิดวิกฤตที่เรียกว่า สังคมสูงอายุ ขึ้น โดยในปี 2018 สัดส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปนั้นคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไปค่ะ นอกจากนี้อัตราการเกิดในญี่ปุ่นในปีเดียวกัน (2018) ยังอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 120 ปีอีกด้วย นั่นหมายความว่าประเทศญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนแรงงานวัยกลางคนเป็นอย่างมาก และประชากรชาวญี่ปุ่นก็มักไม่นิยมทำงานบริบาลกันเป็นทุนเดิม นอกจากในส่วนของประชากรชาวญี่ปุ่นไม่นิยมทำงานบริบาลแล้ว ก็ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงสังคมของญี่ปุ่นที่คนรุ่นลูกจะออกไปทำงานไม่มีเวลาดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา และคิดว่ารัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดูแลโดยสร้างสวัสดิการต่างๆ เช่น บ้านพักคนชรา เป็นต้น ทำให้ไม่มีคนดูแลผู้สูงวัยจึงทำให้ทางญี่ปุ่นต้องการผู้บริบาลมากขึ้น  เมื่อเทียบกันในปี 2008 ที่ผู้บริบาล 1 คน จะดูแลผู้สูงอายุ 1-2 คน แต่สมัยนี้แล้วผู้บริบาล 1 คนจะต้องดูแลผู้สูงอายุถึง 10-12 คนเลยทีเดียว ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเปิดรับชาวต่างชาติเพื่อมาทำงานบริบาลถึงประมาณ 100,000 คนเพื่อรองรับการดูแลผู้สูงอายุให้ได้อย่างทั่วถึงนั่นเองค่ะ

งานบริบาลในญี่ปุ่นต้องทำอะไรบ้าง

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่างานบริบาลนั้นสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วคืองานดูแลผู้สูงอายุค่ะ แน่นอนว่าจะต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ช่วยพยุงเดิน ดูแลการเคลื่อนไหวอย่างการลุก การนั่ง ทำกิจกรรมประจำวัน เช่นการอาบน้ำ แต่งตัว ป้อนอาหารไปจนถึงการที่จะต้องเช็ดปัสสาวะและอุจจาระเลยค่ะ และยังมีหน้าที่ที่จะต้องคอยจัดโภชนาการอาหารให้เหมาะสมและครบถ้วนแก่ผู้สูงอายุ รวมถึงป้องกันการสำลักอาหารอีกด้วยนะคะ นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังมีอารมณ์ที่อ่อนไหว อาจหงุดหงิดหรือโมโหฉุนเฉียวง่าย ผู้บริบาลจำต้องดูแลในส่วนของสภาพจิตใจของผู้สูงอายุด้วยค่ะ  โดยอาจหากิจกรรมให้ผู้สูงอายุทำ รวมไปถึงชวนพูดคุยในแต่ละวันเพื่อให้ความเพลิดเพลินและไม่ทำให้เครียดค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วงานบริบาลจะต้องทำโดยใช้ความเข้าใจและความอดทนเป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ

ค่าตอบแทน/เงินเดือนของการทำงานบริบาลในญี่ปุ่น คือเท่าไหร่กัน!?

การทำงานบริบาลในญี่ปุ่นนั้นถือว่ามีเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงและยังสามารถทำงานแบบ Part-Time ได้อีกด้วยนะคะเงินเดือนและสวัสดิการโดยรวมของอาชีพงานบริบาลนั้นอยู่ที่ประมาณ 200,000 เยนต่อเดือน หรือประมาณ 50,000 บาทและ ในบางบริษัทยังมีเงินพิเศษเมื่อต้องเข้ากะบวกเพิ่มให้อีกนะคะ ถือได้ว่าเป็นเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวค่ะ

ไปทำงานบริบาลที่ญี่ปุ่นคือเรื่องที่คุ้มค่าแน่นอน

ความเป็นจริงแล้วการทำงานบริบาลหรืองานดูแลผู้สูงอายุนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ แม้จะมีค่าตอบแทนที่สูงแต่ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานค่ะ และยังไม่สามารถคาดเดาได้อีกว่าผู้สูงอายุในความดูแลของเราจะเอ็นดูเรามากแค่ไหน ถ้าเจอผู้ใหญ่ที่รักและเอ็นดูเราก็หายเหนื่อยไปเลยล่ะค่ะ ในทัศนะของผู้เขียนนั้นเรียกว่าคุ้มค่าเหนื่อยมากๆ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆนะคะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น